มัลติคัลเลอร์บาคาร่า

Back back

แนะนำ

“มัลติคัลเลอร์บาคาร่า” อาศัยคลาสสิกบาคาร่าเป็นพื้นฐาน เพิ่มสีสันให้กับบาคาร่าอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อประกอบเล่นกับไพ่ใบสีขาว หน้าไพ่มีความหลากหลาย เล่นได้อย่างตื่นเต้นและสนุก

ไพ่ห้าสีวิเศษ

ลบไพ่คลาสสิกบาคาร่าที่ไม่จำเป็นออก (Q K) เพิ่มไพ่หน้าขาวให้เข้ากับสี่ลายเดิม ประกอบเป็นบาคาร่าห้าสี สร้างความหลากและความเป็นไปได้ให้กับบาคาร่า

โหมดเกมเชิงปฏิวัติ

“มัลติคัลเลอร์บาคาร่า” ใช้ไพ่ 8 ชุด ( ทุกขอน 55 ใบ ไพ่ทุกใบมีสีลายและหน้าขาวอีกหนึ่งสี ทุกลายมี11ใบ ได้แก่ 1-11) รวมไพ่ทั้งหมด 440 ใบ

แจกไพ่ให้กับ “ผู่เล่น” กับ “แบงค์เกอร์” คนละสองใบโดยแจกให้ผู้เล่นเป็นคนแรก หากรอบแรกไม่สามารถรับผล จะแจกไพ่ตาม “กฎไพ่” ระหว่างรอบแจกไพ่ที่สอง ทุกฝ่ายจะได้รับไพ่อย่างมาก 3 ใบ การตัดสินชนะแพ้ตามกฎที่แสดงดังต่อไปนี้ แต้มเท่ากันถือว่าเสมอ

ชนะอย่างไร

แจกไพ่สองใบให้กับ “แบงค์เกอร์” กับ “ผู้เล่น”

สำหรับแต้มไพ่ทั้งสองฝ่าย หากจำนวนแต้มรวมมีเพียงหนึ่งฝ่ายเป็นลบ ถือว่าชนะฝ่ายที่จำนวนแต้มรวมเป็นบวก

สำหรับแต้มไพ่ทั้งสองฝ่าย หากจำนวนแต้มรวมเป็นบวกทั้งคู่ จำนวนแต้มเป็น 9 หรือใกล้เคียงกับ 9 มากที่สุดเป็นผู้ชนะ

สำหรับแต้มไพ่ทั้งสองฝ่าย หากจำนวนแต้มเป็นลบทั้งคู่ ฝ่ายใดมีค่าสัมบูรณ์มาก ถือว่าฝ่ายนั้นชนะ

ระหว่างแบงค์เกอร์กับผู้เล่นจำนวนแต้มของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นลบ หากค่าแต้มต่างกันมากกว่า 11 จะไม่สามารถจั่วไพ่ได้

เกมและกฎการออกใบอนุญาต

ไน้าไพ่ สีสัน 1-11 : จำนวนแต้มหน้าไพ่

ไน้าไพ่ สีขาว 1-11 : จำนวนแต้มหน้าไพ่เชิงลบ

เวลาจำนวนแต้มไพ่รวมเป็นบวก ให้จดหลักหน่วยของจำนวนรวมเป็นผลวำหรับฝ่ายนั้น เช่น (8 + (-7) = 1 ผลต่อรอบสำหรับฝ่ายนั้นเป็น+1 หรือ 5 + 9 + 6 = 0 ผลต่อรอบสำหรับฝ่ายนั้นเป็น 0 ค่าสูงสุดเชิงบวกเป็น +9 ค่าสูงสุดเชิงลบเป็น -33 ค่าสมบูรณ์ตัว - สูงกว่าเลขบวก +

กฎของการวาดการ์ดตามสองสถานการณ์:

A. กฎแต้มไพ่เป็นบวก:

เมื่อผลรวมของไพ่สองใบในสองไพ่ฟรีเป็นบวกบวกเป็นบวก วิธีการเล่นคล้ายกับคลาสสิกบาคาร่า โดยมีความแตกต่างเมื่อจั่วไพ่ หลังแจกไพ่สองใบเสร็จ แจกไพ่อีกหนึ่งใบให้กับฝ่ายที่ต้องการจั่วไพ่ เมื่อผู้เล่นวาดบัตรเสร็จสิ้นหากแบงค์เกอร์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันได้แบงค์เกอร์จะยืนอยู่
เมื่อผู้เล่นวาดบัตรเสร็จสิ้นหากแบงค์เกอร์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันได้แบงค์เกอร์จะยืนอยู่
(ตัวอย่าง: บัตร แบงค์เกอร์ 10 + 1 = 1, บัตรผู้เล่น 7 + 3 + (- 11) = - 11 หากแบงค์เกอร์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันได้แบงค์เกอร์ไม่จำเป็นต้องวาดผู้เล่นชนะ)

จำนวนแต้มรวมทั้งแบงค์เกอร์และผู้เล่นจั่วไพ่หรือไม่
0~+5 พอยท์ต้องการจั่วไพ่ 1 ใบ
+6~+7 พอยท์ไม่ต้องจั่วไพ่
+8~+9 พอยท์ผู้ชนะธรรมชาติ ตัดสินใจชนะแพ้ได้ทันที

B. กฎแต้มไพ่เป็นลบ

หากผู้เล่นและแบงค์เกอร์อย่างน้อยหนึ่งฝ่ายจำนวนแต้มเป็นลบ หากจำนวนแต้มต่างกันน้อยกว่า 11 ฝ่ายต่ำ (จำนวนแต้มเป็นบวกเป็นฝ่ายต่ำ หากทั้งแบงค์เกอร์และผู้เล่นมีแต้มไพ่เป็นลบ ค่าสมบูรณ์ฝ่ายใดต่ำถือฝ่ายนั้นเป็นฝ่ายต่ำ) สามารถจั่วไพ่

กฎเกณฑ์จั่วไพ่ :

  1. หากแบงค์เกอร์เป็นฝ่ายต่ำ ผู้เล่นไม่จำเป็นต้องจั่วไพ่
  2. หากผู้เล่นเป็นฝ่ายต่ำ ให้ผู้เล่นจั่วไพ่ ซึ่งแบ่งออกเป็น ๓ กรณีดังต่อไปนี้
    (1) จำนวนแต้มทั้งสองฝ่ายเท่ากันหลังจั่วไพ่ ถือเป็นเสมอ
    (2) หากผู้เล่นยังเป็นฝ่ายต่ำหลังั่วไพ่ แบงค์เกอร์เป็นผู้ชนะโดยไม่จำเป็นต้องจั่วไพ่
    (3) คะแนนสะสมของผู้เล่นทั้งหมดหลังจากดึงไพ่ใบที่สามมากกว่าจุดบัตรของแบงค์เกอร์แบงค์เกอร์จะวาดไพ่ตามกฏเพื่อกำหนดผู้ชนะ
ผู้เล่นจ้ามือคำอธิบายการจั่วไพ่เมื่อจำนวนแต้มเป็นลบ
4+5+(-10)=(-1)1+(-2)=(-1)ผู้เล่นจั่วไพ่ตามกฎจั่วไพ่เมื่อจำนวนแต้มเป็นลบ หลังจากที่แบงค์เกอร์และผู้เล่นวาดบัตรสำหรับจุดเดียวกันจะผูก
4+5+(-5)=+41+(-2)=(-1)ผู้เล่นจั่วไพ่ตามกฎจั่วไพ่เมื่อจำนวนแต้มเป็นลบ หากแบงค์เกอร์ยังนำหน้าก็ถือว่าแบงค์เกอร์เป็นผู้ชนะโดยไม่จำเป็นต้องจั่วไพ่
6+8+(-11)=-76+(-8)+1=-1ผู้เล่นจั่วไพ่ตามกฎจั่วไพ่เมื่อจำนวนแต้มเป็นลบ ให้แบงค์เกอร์จั่วไพ่หนึ่งใบเพื่อตัดสินผลหรืออาจเสมอก็ได้, ตัวแทนจำหน่ายสูญเสีย

คะแนนเท่ากัน

A. ไม่ว่าหน้าไพ่เป็นลายอะไรก็ตาม ถ้าจำนวนแต้มทั้งสองฝ่ายเท่ากัน ถือว่าเสมอ

เช่น :ผู้เล่น 5 + (-5) = 0 แบงค์เกอร์ 7 + 3 = 0 ไม่จำเป็นจั่วไพ่ ถือว่ารอบนี้เสมอกัน

B. หากต้องการจั่วไพ่ใบที่สาม จำนวนแต้มหน้าไพ่ของผู้เล่นเท่ากับแบงค์เกอร์หลังผู้เล่นจั่วไพ่ ต้องการพิจารณาให้แบงค์เกอร์จั่วไพ่หรือไม่ตามสัดส่วนแต้มไพ่ที่เป็นบวกและลบพร้อมจำนวนแต้ม

ผู้เล่นแบงค์เกอร์คะแนนเท่ากัน
2+1+2=52+3=5(ต้องจั่วไพ่)ไพ่ผู้เล่นหลังจากจั่วเกมแต้มเท่ากันแบงค์เกอร์ภายใต้จำนวนบวกของกรณี จำเป็นต้องจั่วไพ่
3+2+1=65+1=6(ไม่ต้องจั่วไพ่)ไพ่ผู้เล่นหลังจากจั่วไพ่คือเกมที่มีแต้มเท่ากัน แบงค์เกอร์ตามกฎของไพ่ไม่ จำเป็นต้องจั่วไพ่คือ เสมอ
2+(-3)=-17+2+(-10)=-1แบงค์เกอร์ตามจำนวนคดีติดลบต้องจั่วไพ่ จั่วไพ่ในแต้มเดียวกัน เสมอกัน
7+2+(-11)=-22+(-4)=-2ผู้เล่นจะต้องจั่วไพ่ตามหมายเลข egative คือเสมอ

อัตราเดิมพัน

รายการเดิมพันอัตราเดิมพันคำอธิบาย
เดิมพันตรง - ผู้เล่น1 ต่อ 1ชนะด้วย 6 แต้ม อัตราเดิมพันเป็น 1 ต่อ 0.5
ดิมพันตรง - แบงค์เกอร์1 ต่อ 0.95--
เดิมพัน - เสมอ1 ต่อ 8คืนเงินเดิมพันทั้งหมดหากผู้เล่นเสมอกับแบงค์เกอร์ แพ้เดิมพันข้างทั้งหมด
เดิมพันข้าง +21 ต่อ 1.5ชนะไพ่ 2 ใบ จำนวนแต้มรวมฝ่ายชนะเป็นบวก
เดิมพันข้าง +31 ต่อ 3ชนะไพ่ 3 ใบ จำนวนแต้มรวมฝ่ายชนะเป็นบวก
เดิมพันข้าง -21 ต่อ 1.5ชนะไพ่ 2 ใบ จำนวนแต้มรวมฝ่ายชนะเป็นลบ
เดิมพันข้าง -31 ต่อ 5ชนะไพ่ 3 ใบ จำนวนแต้มรวมฝ่ายชนะเป็นลบ

คำถามพบบ่อย

  1. เวลาแต้มทั้งแบงค์เกอร์กับผู้เล่นมีฝ่ายหนึ่งเป็นลบกับอีกฝ่ายหนึ่งเป็นบวก จะให้ฝ่ายไหนั่วไพ่?
    Ans:หากจำนวนแต้มสองฝ่ายแต่งกันไม่เกิน 11 แต้ม ฝ่ายที่มีจำนวนแต้มไพ่เป็น (ฝ่ายต่ำ) บวกจั่วจั่วไพ่
  2. จำนวนแต้มของแบงค์เกอร์กับผู้เล่นเป็นลบทั้งคู่ จะให้ฝ่ายไหนจั่วไพ่
    Ans:ดังที่กล้่าวไว้ข้างต้น หากจำนวนแต้มสองฝ่ายแต่งกันไม่เกิน 11 แต้ม ฝ่ายที่มีจำนวนแต้มไพ่เป็น (ฝ่ายต่ำ) บวกจั่วจั่วไพ่ หากต่างกันมากกว่า 11 แต้ม จะไม่จำเป็นจั่วไพ่
    เช่น :ไพ่แบงค์เกอร์เป็น (-5) + 3 = -2 ไพ่ผู้เล่นเป็น (-4) + 1 = -3 ในกรณีนี้ให้แบงค์เกอร์จั่วไพ่
  3. สมมุติจำนวนแต้มสำหรับไพ่สองใบแรกของผู้เล่นเป็น 4 ของแบงค์เกอร์เป็น 6 ผู้เล่นจั่วไพ่หนึ่งใบตามจำนวนแต้ม หากจั่วได้ -5 ทำให้ยอดรวมของผู้เล่นกลายเป็น -1 ซึ่งนำหน้าแบงค์เกอร์ ในกรณีนี้แบงค์เกอร์ต้องการจั่วไพ่หรือไม่
    Ans:หากไพ่คู่แรกของทั้งสองฝ่ายเป็น 6 กับ 7 จะไม่ให้จั่วไพ่ตามกฎสัดส่วนจำนวนแต้ม เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้ไม่อนุญาตให้จั่วไพ่
  4. สมมุติจำนวนแต้มสำหรับไพ่สองใบแรกของผู้เล่นเป็น 3 ของแบงค์เกอร์เป็น 7 ผู้เล่นจั่วไพ่หนึ่งใบตามจำนวนแต้ม หากจั่วได้ 5 ทำให้ยอดรวมของผู้เล่นกลายเป็น 8 ซึ่งนำหน้าแบงค์เกอร์ ในกรณีนี้แบงค์เกอร์ต้องการจั่วไพ่หรือไม่
    Ans:หากไพ่คู่แรกของทั้งสองฝ่ายเป็น 6 กับ 7 จะไม่ให้จั่วไพ่ตามกฎสัดส่วนจำนวนแต้ม เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้ไม่อนุญาตให้จั่วไพ่
  5. ผู้เล่นจั่วไพ่ก่อนแบงค์เกอร์เสมอหรือไม่
    Ans:ถูกต้อง หลังแบงค์เกอร์จั่วไพ่สามารถรับผลได้ทันที ซึ่งผู้เล่นไม่สามารถจั่วไพ่อีก
  6. สมมุติไพ่สองใบแรกของผู้เล่นเป็น 6 กับ 8 แต้ม ไพ่ใบที่สามที่จั่วได้เป็น -11 แต้ม จำนวนแต้มรวมของผู้เล่นเป็น 6+8+(-11)=3 หรือไม่
    Ans:ไม่ถูกต้อง ในกรณีนี้ ควรคำนวณจำนวนแต้มรวมของไพ่สองใบแรก แล้วนำหลักหน่วยมาบวกกับแต้มไพ่ใบที่สาม จำนวนแต้มที่ถูกต้องควรเป็น 6+8+(-11)=-7